โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
รู้จักโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
มะเร็งกระเพาะปัสสาวะมักเกิดจากเยื่อบุภายในกระเพาะปัสสาวะมีการแบ่งตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติจนกลายเป็นก้อนเนื้อขึ้นมา และก้อนเนื้อนี้สามารถเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนอาจลุกลามออกไปยังต่อมน้ำเหลืองและอวัยวะข้างเคียง รามถึงแพร่กระจายสู่กระแสโลหิตได้ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า การเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะในประเทศไทยอยู่ที่ 5.5 ต่อประชากร 100,000 คน โดยจะพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงคือ อยู่อับดับ 7 ของมะเร็งที่พบมากในผู้ชาย ขณะที่ในผู้หญิงจะอยู่ต่ำกว่าอันดับที่ 15
บุหรี่เป็นปัจจัยสำคัญของการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ปัจจุบันเรายังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ แต่พบว่ามีปัจจัยหลายๆ อย่างที่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งชนิดนี้ โดยปัจจัยสำคัญที่สุดก็คือ การสูบบุหรี่ เพราะควันบุหรี่มีสารก่อมะเร็งที่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและขับถ่ายออกทางกระเพาะปัสสาวะได้ การสูบบหรี่จึงทำให้เยื่อบุการะเพาะปัสสาวะสัมผัสกับสารก่อมะเร็งโดยตรง บุหรี่จึงไม่ใช่ปัจจัยเสี่ยงเฉพาะของมะเร็งปอด มะเร็วช่องปากและลำคอ มะเร็งกระเพาะอาหารหรือมะเร็งหลอดอาหารเท่านั้น คงต้องบอกว่าถ้าไม่มีบุหรี่จำหน่ายผู้ป่วยโรงมะเร็งน่าจะลดลงได้เกือบ 50%
ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ก็ยังมีเรื่องของอายุ คือคนที่อายุมากขึ้นก็มีโอกาสเป็น มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ขึ้นนอกจากนี้การติดเชื้อเรื้อรังในกระเพาะปัสสาวะก็เป็นปัจจัยเสี่ยงอีกอย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังในผู้ป่วยที่มีความพิการแต่กำเนิด หรือผู้ป่วยที่ต้องคาสายท่าปัสสาวะเป็นเวลานานๆ ในผู้ป่วยที่รับประทานยากดภูมิบางตัวติดต่อกันเป็นสิบๆปี เพราะยาจะถูกขับออกมาในกระเพาะปัสสาวะและอาจจะเป็นพิษต่อผนังเยื่อกระเพาะปัสสาวะได้
อาการโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมักจะมาพบแพทย์ด้วยอาการปัสสาวะเป็นเลือด บางทีอาจจะนำเอาปัสสาวะมาด้วย เหมือนปัสสาวะไม่สุด วันดีคืนดีก็ปัสสาวะเป็นเลือด แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะปัสสาวะเป็นเลือดจะต้องเป็นโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาจจะแค่เกิดการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ หรือเป็นนิ่วในไตก็ได้ ขณะเดียวกันปัสสาวะเป็นเลือดยังอาจเป็นอาการของชนิดอื่นด้วย เช่น มะเร็งของไต และกรอยไต เป็นต้น
การวินิจฉัยเพื่อแยกโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
ผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมักมาพบแพทย์ช้าเพราะมัวเข้าใจไปว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบหรือติดเชื้อ ดังนั้นสิ่งที่ต้องสังเกตคือถ้ารักษาหายแล้ว อาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบยังกลับมาเป็นซ้ำซาก ก็ควรต้องมารับการตรวจเพิ่มเติมมากว่าที่จะแค่รักษาอาการติดเชื้อเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่อายุมากต้องตระหนักว่ามีโอกาสที่จะเป็นโรคอย่างอื่นได้ ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์ก็จะแนะนำให้ตรวจหาความผิดปกติด้วยวิธีอื่น เช่น การทำอัลตราซาวด์ของไต เพื่อดูว่ามีก้อนเนื้อหรือเปล่า ถ้าไม่เจอก็อาจจะต้องเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้ปัสสาวะเป็นเลือด เรียกว่าอย่ารอจนมีการลุกลามไปที่ต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียงกับกระเพาะปัสสาวะซึ่งจะทำให้มีอาการปวดหลัง ปวดหน่วงๆที่ก้น เพราะนั้นเป็นอาการโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะระยะที่ลุกลามแล้ว
เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีวิธีตรวจคัดกรองโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะตั้งแต่ยังไม่มีอาการ ดังนั้นเมื่อมีอาการผิดปกติต่างๆ ดังกล่าวมาแล้วจีงควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉันและรักษาแต่เนิ่นๆ
ที่มา Health Today